เกาะสีชัง

แหลมมหาวชิราวุธ ( แหลมสลิด )

ตั้งอยู่ที่: อำเภอเกาะสีชัง จ. ชลบุรี
 ช่วงเวลาแนะนำ: เที่ยวได้ตลอดปี
กิจกรรม: นั่งรถสกายแล็ปเที่ยวรอบเกาะ เล่นน้ำ ชมพระอาทิตย์ตก

เป็นเกาะใหญ่ที่มีฐานะเป็นอำเภอหนึ่งของชลบุรี อยู่ห่างจากฝั่งศรีราชาประมาณ 12 กิโลเมตร เป็นที่จอดพักเรือสินค้านานาชาติ และเป็นเกาะที่น่าท่องเที่ยวในบรรยากาศแบบท้องถิ่น ซึ่งสามารถแวะท่องเที่ยวในวันเดียวหรือพักค้างคืนก็ได้ ชุมชนเกาะสีชังอยู่ทางด้านตะวันออกของเกาะ เป็นที่ตั้งของ ท่าเรือเทววงศ์ (ท่าล่าง) และเป็นจุดเริ่มต้นการเดินทางด้วยรถสามล้อเครื่องหรือสกายแล็ปไปยังจุดอื่น ๆ บนเกาะสีชัง

การเดินทาง

ต้องนั้งเรือข้ามฝากที่ ท่าเรือจรินทร์ อยู่ตรงถนนเจิมจอมพล ซอย 14 ถ้าขับรถมา เมื่อผ่านที่ว่าการ อ.ศรีราชา มาถึงสี่แยกวังหิน ให้เลี้ยวขวา สู่ ถ.สุรศักดิ์ 2 ตรงเข้าไปถึงหอนาฬิกา เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเจิมจอมพล ตรงเข้าไปจนถึงซอย 14 เป็นซอยแคบๆ นำรถไปจอดที่สะพานปลาด้านใน
ถ้ามาโดยรถโดยสาร ให้ลงที่ศรีราชา ตรงห้างจัสโก้ หรือตึกคอม หาตุ๊กตุ๊ก หรือมอเตอร์ไซค์รับจ้าง เพื่อไปยังท่าเรือ
เรือข้ามฝาก ไปเกาะสีชัง มีเรือออกทุกๆชั่วโมง ตั้งแต่ 6.00 - 20.00 น. ค่าเรือคนละ 30 บาท ใช้เวลาเดินทางประมาณ 45 นาที
การเดินทางบนเกาะบนเกาะจะมีรถสกายแล็ป ให้บริการ เป็นรถที่มีลักษณะคลัายรถตุ๊กตุ๊ก แต่มีความกว้างและยาวกว่า นั้งได้ 5 - 6 คน สามารถว่าจ้างให้ไปส่งยังจุดต่างๆ หรือใช้บริการ นำเที่ยวด้วยรถสกายแล็ป โดยมีคนขับเป็นไกด์ สนนราคา เที่ยวครึ่งรอบเกาะ 150 บาท เที่ยวรอบเกาะ 250 บาท
นอกจากนี้ยังมีมอเตอร์ไซค์ให้เช่า ขับได้ 80 บาท/ช.ม. 250 บาท/วัน หรือจะเดินไปยังสถานที่ต่างๆก็ได้ ถ้ามีเวลา และพละกำลังมากพอ เพราะระยะทางไม่ไกลมากนัก แต่ทางเดินอาจจะลาดชั้น และอากาศค่อนข้างร้อน

สถานที่น่าสนใจภายใน เกาะสีชัง

ศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่เป็นหินที่มีลักษณะคล้ายคนนั้งอยู่ ในโพรงถ้ำบนเขาคยาศิระ เป็นที่เคารพศรัทธาของชาวเกาะ และคนไทยเชื้อสายจีน ด้านหน้ามีการก่อสร้างศาลเจ้าขี้น โดยมีลักษณะทรงวิหารจีน ภายในมีศาลเจ้าแม่กวนอิม เจ้าพ่อเห้งเจีย วิหารพระสังกัจจายน์ ชาวไทยเชื้อสายจีนนิยมมากราบไหว้ในช่วงตรุษจีน เชื่อกันว่าถ้าได้มาสักการะ 3 ปีติดต่อกัน จะทำให้ร่ำรวย
พระจุฑาธุชราชฐานเป็นพระตำหนักที่งดงามอย่างยิ่ง ประกอบด้วยพระที่นั่ง 4 องค์ ตำหนัก 16 หลัง ศาลา 1 หลัง อุทยานตกแต่งตามแบบพระราชวังของตะวันตก มีทั้ง สวนดอกไม้ บ่อน้ำ น้ำพุ ถ้ำ ท่ามกลางต้นลั่นทมส่งกลิ่นหอมเย็น
หน้าพระราชฐาน เป็นหาดท่าวังช่วงน้ำขึ้น เป็นอีกหาดหนึ่งที่มีคนนิยมมาเล่นน้ำกัน
หาดถ้ำพังเป็นชายหาดโค้งที่สวยงาม เป็นหาดที่ชาวเกาะ และนักท่องเที่ยวนิยมไปเล่นน้ำ สามารถมากางเต็นท์พักแรมบริเวณนี้ได้ มีที่พัก และร้านอาหารไว้บริการ ด้านเหนือของหาดมีแหลมถ้ำพัง สามารถตกปลา หรือไปชมพระอาทิตย์ตกดินได้
ช่องเขาขาด และหาดหินกลมมีลักษณะเป็นช่องเขาที่ขาดออกจากกัน ชาวเกาะสีชังเรียกบริเวณนี้ว่า "หลังเกาะ" หาดบริเวณนี้มีหินลักษณะกลมเกลี้ยง จึงมีชื่อว่าหาดหินกลม บริเวณนี้มีพลับพลาที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงใช้เป็นหอดูดาวด้วย บริเวณนี้เป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกอีกจุดหนึ่ง มีปลาชุกชุมสามารถมานั้งตกปลาได้
วัดจุฑาทเศธรรมสภารามวรวิหารสร้างขึ้นในปี พ.ศ.2435 โดยรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้น เพื่อเฉลิมพระเกียรติในวาระประสูติ ของสมเด็จฯ เจ้าฟ้าจุฑาธุชธราดิลก วัดจุฑาฯ ประดิษฐาน รอยพระพุทธบาทจำลอง และพระพุทธรูปปางมารวิชัยที่งดงาม
เจดีย์วัดอัษฎางค์นิมิตรตั้งอยู่ด้านหลังพระจุฑาธุชราชฐาน เป็นเจดีย์สวยงามผสมผสานศิลปกรรมตะวันตก ลักษณะเป็นอาคารทรงกลม ส่วนยอดเป็นเจดีย์ ส่วนล้างเป็นอุโบสถ
รอยพระพุทธบาทจำลองเหนือศาลเจ้าพ่อเขาใหญ่ขี้นไป บนยอดเขาประดิษฐาน พระบรมสารีริกฐาน และรอยพระพุทธบาทจำลอง ที่สร้างในอินเดีย สมัยพระเจ้าอโศกมหาราช ประมาณ พ.ศ. 500 ซึ่งสมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพ ทรงอัญเชิญมากจากวัดพุทธคยา ประเทศอินเดีย
บนยอดเขายังเป็นจุดชมวิวที่สวยงาม สามารถมองเห็นทะเลกว้างไกล เกาะขามใหญ่ และเกาะสีชังทั้งเกาะโดยรอบ เป็นจุดชมพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงาม
หลักศิลาจารึกเป็นหลักศิลาสร้างขึ้นสมัยรัชกาลที่ 5 จารึกเกี่ยวกับการสร้างพระราชฐานบนเกาะสีชัง ตั้งอยู่บริเวณข้างสนามฟุตบอลโรงเรียนเกาะสีชัง
ถ้ำจักรพงษ์ และพระเหลืองเป็นถ้ำเล็กๆ ภายในประดิษฐานพระพุทธรูปปางไสยาสน์ สมเด็จฯ เจ้าฟ้าจักรพงษ์ภูวนาถทรงเป็นผู้พบถ้ำนี้ เหนือถ้ำนี้ขึ้นไปประดิษฐานพระพุทธรูปปางสมาธิขนาดใหญ่ มีสีเหลืองตลอดทั้งองค์ สามารถมองเห็นได้แต่ไกล ตั่งแต่อยู่บนเรือก่อนขึ้นฝั่ง เรียกกันว่า "พระเหลือง"
เก๋งจีนเป็นศาลาโบราณ เคยเป็นที่ประทับชั่วคราวสมัยราชกาลที่ 5 เสด็จประพาส ปัจจุบันค่อนข้างชำรุดทรุดโทรม